Saturday, May 31, 2014

ธุรกิจ : หลักการวิเคราะห์ SWOT

หลักการวิเคราะห์ SWOT

หลักการวิเคราะห์  SWOT     
                    คำว่า  SWOT   ย่อมาจาก
  S    =  Strengths          แปลว่า      จุดแข็ง
  W  =   Weakness        แปลว่า      จุดอ่อน
   O  =   Opportunity    แปลว่า      โอกาส 
  T   =    Threat                แปลว่า      อุปสรรค                 จุดแข็งและจุดอ่อน   เป็นสิ่งที่ปรากฏในกิจการของเราเป็นปัจจัยภายในกิจการเราเอง   เราสามารถควบคุมได้     การเปลี่ยนไปของปัจจัยภายในเราสามารถควบคุมได้    เช่น ชื่อเสียงของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง  สถานภาพทางด้านการเงิน   ความสามารถของผู้บริหาร    ถ้าเป็นข้อดีคือจุดแข็งข้อเสียคืออุปสรรค   ซึ่งเวลาเขียนจะต้องแสดงจุดแข็งให้เห็นเด่นชัดจุดอ่อนที่มีแนวทางป้องกันได้  โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายกับกิจการมากนักแต่ถ้าเป็น  ปัจจัยภายนอก  เราไม่สามารถควบคุมได้  เช่น  คู่แข่ง  การเมืองและกฎหมาย  กระแสแฟชั่นสังคม   เศรษฐกิจ  เทคโนโลยี  ข้อดีเราเรียกว่าโอกาส  ส่วนข้อเสียเราเรียกว่า  อุปสรรค                           สำหรับสภาพแวดล้อมภายนอกนั้นผู้ประกอบการ   สามารถตรวจสอบก่อนลงมือเขียนแผนธุรกิจได้โดยตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรวมทั่วไปก่อนกล่าวคือ   สิ่งที่กระทบโดยตรงต่อกิจการเช่นรัฐบาล ชุมชน  ผู้ส่งวัตถุดิบให้กิจการ  คู่แข่งขัน  ลูกค้า  เจ้าหนี้  ลูกจ้าง  สมาคมการค้า                           
                              
สภาพแวดล้อมภายนอกธุรกิจ ประกอบด้วย ฝ่ายต่าง ๆ ในสังคมที่มีอิทธิพลเหนือพฤติกรรมตนและองค์การ ถ้าสิ่งแวดล้อมเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปก็มีผลทำให้คนและองค์การเปลี่ยนแปลงไปด้วย เป็นสิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่องค์การธุรกิจจะต้องติดตามและปรับตัวให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อการอยู่รอด และเจริญก้าวหน้าขององค์การต่อไป สภาพแวดล้อมภายนอกเหล่านี้ ได้แก่   
                   1.1 สภาพแวดล้อมทางกฎหมาย  สำหรับกฎหมายจะมีบทบาทต่อธุรกิจค้าปลีกขนาดย่อมนั้น เริ่มตั้งแต่เราได้มีการตัดสินใจว่าจะประกอบธุรกิจอะไร  ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกขนาดย่อมต้องศึกษารายละเอียดของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้น  ซึ่งสำนักงานกฎหมายจะมีนักกฎหมายสามารถให้คำแนะนำชี้แนะให้ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดย่อมทราบถึงรายละเอียดในการที่จะประกอบธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การขออนุญาตจัดตั้งและการดำเนินการรวมทั้ง การวางแผนทางด้านภาษีอากรตลอดจน  การขอสิทธิและประโยชน์ตามกฎหมาย  เป็นต้นว่า การขอเครื่องหมายการค้า (Trademark) ลิขสิทธิ์ (Copyright) สิทธิบัตร(Patent) การทำธุรกรรมใด  ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นก็ต้องมีการทำสัญญาโดยทั่วไปแล้วจะมีพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับกับการทำธุรกรรมธุรกิจค้าปลีกขนาดย่อมเช่น 
          -  พระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.. 2522 
          -  พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.. 2533
                       สรุปได้ว่าบทบาทของกฎหมายนั้นมีต่อธุรกิจค้าปลีกขนาดย่อมนั้น ได้เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนการจัดตั้งธุรกิจ  ระหว่างธุรกิจกำลังดำเนินอยู่จนกระทั่งธุรกิจนั้นปิดกิจการลง
                1.2 สภาพแวดล้อมทางการเมือง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลหรือหารเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองใหม่ย่อมมีผลกระทบต่อธุรกิจ รัฐบาลแต่ละรัฐบาลย่อมกำหนดนโยบายที่แตกต่างกันไป บางรัฐบาลอาจนโยบายสนับสนุนธุรกิจขนาดย่อมผลกระทบย่อมเกิดกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล ยิ่งถ้ามีการเปลี่ยนระบบการเมือง การปกครอง จากระบบประชาธิปไตยมาเป็นเผด็จการ ธุรกิจเอกชนอาจถึงกับถูกยัดเป็นของรัฐหรือต้องล้มเลิกกิจการไป
- See more at: http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=1173&pageid=10&read=true&count=true#sthash.09ObSnGw.dpuf

No comments: